DGRIE – Dress Up กับ Dress Down คืออะไร?
เมื่อชุดสูทเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมืออาชีพ ความน่าเชื่อถือในสายอาชีพ แต่รู้ไหมครับว่า เราสามารถปรับลุคของชุดสูทให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยแนวคิด “Dress Up” กับ “Dress Down” ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญในแฟชั่นที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีและเหมาะสมตามแต่ละโอกาส บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักความแตกต่างและแนวทางการแต่งตัวในสองสไตล์นี้อย่างเข้าใจง่ายๆ พร้อมตัวอย่างการเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เหมาะสมกับทั้งสองสไตล์

.
[Dress Up หมายถึงการแต่งตัวให้ดูเป็นทางการ เรียบร้อย และดูดีเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานสำคัญ เช่น การประชุม งานเลี้ยง หรือพิธีการต่าง ๆ ส่วน Dress Down คือการแต่งตัวให้ดูสบาย ๆ ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ทำงานในออฟฟิศที่ไม่เคร่งครัด หรือเวลาที่ต้องการความสะดวกสบาย]
.
1. การแต่งตัวให้ดูเป็นทางการ (Dress Up) การแต่งลุคนี้เน้นความสุภาพ เรียบร้อย และดูดีในทุกมิติ
เลือกผ้าสูทคุณภาพดีในสีคลาสสิก เช่น น้ำเงิน เทา ดำ ซึ่งเป็นสีที่ดูเป็นทางการและดูสมาร์ท
เสื้อเชิ้ตแขนยาว สีขาวหรือสีอ่อน ใส่คู่กับกางเกงสูทที่พอดีตัว
รองเท้าหนังสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เพื่อความเป็นทางการและดูดี
เสริมด้วยเนคไทหรือโบว์ไท เพื่อเพิ่มความสุภาพและเป็นทางการในลุคนี้
.
2. การแต่งตัวให้ดูสบาย ๆ (Dress Down) ลุคนี้เหมาะสำหรับวันทำงานที่ไม่เป็นทางการ หรือกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
เลือกเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลาย หรือแขนสั้น เพื่อความสบายและดูเป็นกันเอง
กางเกงเลือกสีเทา สีเบจ หรือสีอ่อน ๆ ที่ง่ายต่อการจับคู่
รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหนังแบบสวม เพื่อความคล่องตัวและผ่อนคลาย
เสริมด้วยผ้าพันคอ หมวก หรือเครื่องประดับเล็ก ๆ ช่วยให้ลุคดูน่าสนใจมากขึ้น
.
การแต่งตัวในสไตล์ “Dress Up” และ “Dress Down” เป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถปรับลุคของชุดสูทให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นงานสำคัญหรืองานในชีวิตประจำวันที่ต้องการความคล่องตัว การเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้ตรงกับโอกาส จะช่วยเสริมความมั่นใจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวคุณเอง – ช้อปสินค้าคุณภาพดีจากแบรนด์ดีกรี พร้อมรับโค้ดส่วนลดสุดพิเศษ >> https://shopee.co.th/dgrie สอบถาม/สั่งตัดสูท >> https://lin.ee/n1ieBic > ติดตามบทความแฟชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.dgrie.com/blog/

